ที่ปรึกษาการพัฒนา Talent ในองค์กร

Talent Management คืออะไร

Talent Management คือกระบวนการในการค้นหา (ดึงดูด) พัฒนา และรักษาบุคลากรที่มีผลการปฏิบัติงานดีเด่นและมีศักยภาพสูง ด้วยการเร่งพัฒนาและปฏิบัติการเรียนรู้ ที่เหมาะสมและสอดคล้องกับความต้องการของธุรกิจ

ทำไมต้องทำ Talent Management เหตุผลในการทำจะมีอยู่ 2 ปัจจัยหลักๆ ด้วยกันคือ

1.Demand for talent

ความกดดันจากการแข่งขัน
โอกาสทางธุรกิจ
Dynamic Business Model
พนักงานขาดทักษะ
ผู้บริหารขาดศักยภาพที่ พร้อมจะเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น

2.Supply for talent

การเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างประชากร
วิกฤติความจงรักภักดีต่อองค์กร
สงครามแย่งชิงตัวคนเก่งยังมีอย่างต่อเนื่อง
ขาดการเตรียมผู้นำองค์กรในอนาคต
ขาดความเชื่อมโยงในการบริหารองค์กร

ขั้นตอนในการทำ Talent Management

1.กำหนดคุณสมบัติของผู้เข้าร่วมโครงการ

ขั้นตอนแรก คือเราต้องกำหนดคุณสมบัติของพนักงานที่จะเข้าร่วมโครงการ Talent Management ก่อน ซึ่งโดยทั่วไปแล้วคุณสมบัติที่กำหนดกันก็คือ

• ระดับผลการปฏิบัติงาน

• บุคลิกภาพ

• ศักยภาพ

• การยอมรับ

2.การออกแบบ DNA ของผู้นำในอนาคต

พอเราได้คุณสมบัติของผู้เข้าร่วมแล้ว เราต้องมาออกแบบ DNA ของผู้นำในอนาคตที่องค์กรต้องการกันต่อแลย โดยแนวทางในการกำหนดนั้น แนะนำว่าให้ครอบคลุมหัวข้อต่างๆ ดังนี้

1. Personal Characteristics เช่น ความเข้าใจในธุรกิจ การประพฤติปฏิบัติอย่างสุจริตและมีคุณธรรม เป็นต้น

2. Leadership Characteristics เช่น ความเป็นผู้นำและการสร้างทีมงาน ความมีวิสัยทัศน์ ความสามารถทำงานในสภาวะกดดัน

ความยืดหยุ่นและการปรับตัว เป็นต้น

3. Managerial Characteristics เช่น ความมุ่งมั่นให้งานสำเร็จตามเป้าหมาย สามารถควบคุมการจัดระบบงาน ความเชี่ยวชาญ

ในงาน เป็นต้น

3.การสรรหาพนักงานเข้าร่วมโครงการ

ในขั้นตอนที่ 3 นี้ จะต้องสื่อสารให้ผู้บังคับบัญชาของต้นสังกัดได้เสนอชื่อพนักงานในสังกัดที่มีคุณสมบัติตรงตามที่กำหนดได้กำหนดไว้แล้วในขั้นตอนที่ 1-2 เข้าร่วมโครงการ เพื่อรับการพิจารณาคัดเลือกต่อไป

4.การประเมินและวิเคราะห์ DNA Gap

เป็นการประเมินศักยภาพที่เข้มข้นตาม DNA ของผู้นำในอนาคต ใน 3 หัวข้อ คือ Personal characteristics, Leadership characteristics และ Managerial characteristics ซึ่งเทคนิคและเครื่องมือในการประเมินนั้น จะเป็นการประเมินหัวข้อแรกด้าน Personal characteristics ฝ่ายทรัพยากรมนุษย์กับผู้จัดการสายงานที่รับผิดชอบจะเป็นผู้พิจารณากลั่นกรองพนักงานดังกล่าว และนำเสนอรายชื่อผู้ผ่านการพิจารณาเข้าสู่กระบวนการพิจารณาคุณสมบัติในหัวข้อที่ 2 และ 3 คือ Leadership characteristics และ Managerial characteristics โดยคณะกรรมการพัฒนาศักยภาพที่แต่งตั้งขึ้นเป็นผู้พิจารณา

5.การคัดเลือก Talent

มีเกณฑ์ในการคัดเลือก โดยพนักงานที่ผ่านการประเมินจะต้องได้รับคะแนนการประเมิน DNA ทั้ง 3 หัวข้อ ตั้งแต่ 70% ขึ้นไป ถึงจะผ่านเข้าสู่ Talent Pool โดยจะมีการสรุปผลการประเมินผู้เข้าร่วมโครงการเป็นรายบุคคล ซึ่งรายละเอียดประกอบด้วย คะแนนรวม ลำดับที่ ความคิดเห็นเพิ่มเติม จุดแข็ง สิ่งที่ต้องปรับปรุง และข้อสังเกตจากการประเมิน

6.การออกแบบแนวทางการพัฒนา Talent

กลุ่ม Talent จะได้รับการพัฒนาโดย “Blended learning approach” ซึ่งเป็นแนวทางการพัฒนาแบบผสมผสานกิจกรรมการเรียนรู้ที่ มีความหลากหลาย สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการทำงานได้จริง ส่วนวิธีการพัฒนานั้น Talent จะถูกจัดกลุ่มการพัฒนาโดยระดับตำแหน่งงาน และ DNA Gap ของเขา เนื้อหาการเรียนรู้จะถูกออกแบบให้เหมาะสมกับแต่ละกลุ่ม

7. การกำหนดโปรแกรมพัฒนา Talent

ขั้นตอนนี้ HRD และคณะทำงานโครงการจะสื่อสารกับ Top talent แบบตัวต่อตัวถึงแผนพัฒนารายบุคคลของเขา (IDP) เพื่อให้ Commitment ในการเข้าร่วมโปรแกรมการพัฒนา

ส่วนผู้เป็น Talent จะต้องเข้ารับโปรแกรมการเรียนรู้ที่เป็นทางการอย่างน้อย 1 วันต่อเดือน และโปรแกรมที่ไม่เป็นทางการอย่างน้อย 2 วันต่อเดือน เช่น การเรียนรู้ด้วยตนเอง, การมอบหมายงาน, การร่วมเข้าสังเกตการณ์การประชุมของผู้บริหารระดับสูง เป็นต้น

และ HRD จะจัดทำรายงานความสามารถและความตั้งใจในการเรียนรู้ของ Talent เป็นรายบุคคล เสนอต่อผู้บังคับบัญชาของ Talent เป็นรายเดือน

8.การติดตามและประเมินผลการเรียนรู้

ผู้ที่เป็น Talent จะได้รับมอบหมายให้นำความรู้ที่เรียนในไปประยุกต์ใช้ในการทำงานจริง และต้องกลับมานำเสนอกิจกรรม และผลลัพธ์เพื่อที่จะประเมินความสามารถในการเรียนรู้ของเขา มีการทดสอบทั้งก่อนและหลังการเรียนรู้อย่างสม่ำเสมอ

.