หลักสูตร การทำงานข้ามสายงานอย่างมีประสิทธิภาพ (Cross Functional Team)

               ในสภาวการณ์ที่มีการแข่งขันสูง องค์การต่างๆ ต้องเผชิญกับปัญหามากมาย  ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันในเชิงการตลาด หรือการให้บริการที่มากขึ้น ทุกองค์กรต่างต้องพัฒนาทั้งเทคโนโลยี วิทยาการต่างๆ ซึ่งทำให้ผู้บริหารต้อง เพิ่มพูนศักยภาพในการบริหารงานมากขึ้น  โดยเฉพาะหัวใจสำคัญนั้นคือ “ทรัพยากรบุคคล” ในองค์กรนั่นเองที่ ทุกฝ่ายจะต้องประสานความร่วมมือ เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เพื่อให้การปฏิบัติงานบรรลุตามเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ดังนั้น บุคลากรในองค์กร จำเป็นที่จะต้องเรียนรู้ วิธีการเสริมสร้างขีดความสามารถในการทำงานร่วมกันและการผสานงานข้ามสายงาน เพื่อร่วมกันสร้างผลงานสู่ความสำเร็จแห่งการบรรลุเป้าหมายขององค์กร อีกทั้งยังเป็นการพัฒนาศักยภาพและวุฒิภาวะทางอารมณ์ เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับงานที่ตนเองรับผิดชอบ จนนำไปสู่การสร้างประสิทธิภาพและประสิทธิผลขององค์กรต่อไป

นอกจากการมีทัศนคติที่ดีต่อการทำงานร่วมกันแล้ว ยังจำเป็นต้องมีหลักคิดที่มีประสิทธิภาพ ที่ทำให้สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิผลด้วย หลักสูตรนี้จึงพัฒนาขึ้นมาเพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้เรียนรู้ทั้งเทคนิคและวิธีในการพัฒนาความคิด และประสิทธิภาพในการทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบ พร้อมทั้งการมีเป้าหมายเดียวกันในองค์กรเพื่อก้าวไปด้วยกัน  ผ่านการฝึกปฏิบัติ ทำกิจกรรมและระดมสมองที่จะทำให้ผู้อบรมเข้าใจและสามารถประยุกต์ใช้ได้ด้วยตนเองเมื่อปฏิบัติงานจริง

วัตถุประสงค์

  1. เพื่อให้ผู้เข้ารับอบรมมีความรู้ความเข้าใจในแนวคิดและองค์ประกอบที่สำคัญของการทำงานข้ามสายงานอย่างมีประสิทธิภาพ
  2. เพื่อเสริมสร้างและผสานให้เกิดการทำงานเป็นทีมระหว่างหน่วยงานภายในองค์กรมากยิ่งขึ้น
  3. เพื่อจัดการปัญหาความขัดแย้งและผสานความต่างสร้างความเป็นหนึ่งเดียวในองค์กรให้เกิดประสิทธิผลจากการทำงานเป็นทีม
  4. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมตระหนักรู้ในบทบาทและหน้าที่ในการทำงานข้ามสายงานและการส่งต่องานอย่างมีประสิทธิภาพ

 

หัวข้อการบรรยาย 

CHAPTER 1 : หลักการและแนวคิดเกี่ยวกับกาiทำงานเป็นทีมและประสานงานข้ามสานงาน 

  • ความหมายและความสำคัญของการทำงานเป็นทีมและการทำงานข้ามสายงาน
  • ความสำคัญของทำงานข้ามสายงานและการมีเป้าหมายร่วมกันของทุกทีมในองค์กร
  • ทัศนคติและแนวคิดเชิงบวกเกี่ยวกับการทำงานเป็นทีม (Positive Teamwork)
  • หลุมพรางและอุปสรรคในการทำงานข้ามสายงานที่ด้อยประสิทธิภาพ
  • ก้าวข้ามอุปสรรคในการทำงานข้ามสายงานเพื่อพัฒนาองค์กรให้เกิดประสิทธิผล
  • องค์ประกอบและกระบวนการทำงานข้ามสายงานที่เป็นมีประสิทธิภาพ
  • บทบาทและหน้าที่ในการทำงานงานข้ามสายงานและการส่งต่องานอย่างมีประสิทธิภาพ

CHAPTER 2: ทักษะที่สำคัญเพื่อการสนับสนุนทำงานเป็นทีมและการทำงานข้ามสายงานอย่างมีประสิทธิภาพ

  • ทักษะการวิเคราะห์และเข้าใจสไตล์ของทีมงานเพื่อผสานความต่างอย่างสร้างสรรค์
  • ทักษะการพิชิตจิตใต้สำนึกของทีมงานให้ยอมเป็นพวกด้วย Rapport & Trust.
  • ทักษะการฟังเพื่อเข้าใจความต้องการของทีมงานอย่างลึกซึ้ง (เงียบให้ถูกจังหวะ คนชนะไม่พูดมาก)
  • ทักษะการใช้คำพูดในการทำงานร่วมกัน (ใช้คำให้ฉลาด ก็เพิ่มโอกาสจาก 0 เป็น 100)
  • ทักษะการกระตุ้นจูงใจให้ผู้ร่วมงานอยากช่วยเหลืองาน

CHAPTER 3: เทคนิคการสนับสนุนทำงานเป็นทีมและการทำงานข้ามสายที่มีประสิทธิภาพ

  • เทคนิคการกำหนดเป้าหมายร่วมกันและก้าวไปในทิศทางเดียวกัน (Teamwork)
  • เทคนิคการสื่อสารและสร้างความไว้วางใจเพื่อการทำงานเป็นทีมงานอย่างมีประสิทธิภาพ
  • เทคนิคการลดอิทธิพลการต่อต้านและผสานความร่วมมือร่วมใจในทีมงาน(Team Synergy)
  • เทคนิคการลดความขัดแย้งและปลุกพลังทีมงานให้ทำงานอย่างกระตือรือร้นและเกิดประสิทธิผล

 

เทคนิคและวิธีการฝึกอบรม 

  • ใช้เทคนิคผสม (integration techniques) ที่ผสานกันอย่างลงตัวในการสร้างและพัฒนากระบวนการเรียนรู้  โดยมี  3 เทคนิคหลักที่สำคัญดังนี้

1. Training & Group Coaching     คือ ศาสตร์ที่ผสานระหว่างการถ่ายทอดความรู้ในรูปแบบการบรรยาย การทำWorkshop และการโค้ชชิ่งที่กระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดการตระหนักรู้ และเรียนรู้ผ่านประสบการณ์ของตนเอง จนสามารถนำไปปฏิบัติ พัฒนาตนเองและองค์กร ได้อย่างยั่งยืนด้วยตนเอง              

2. Activity Base Learning คือ เน้นการเรียนรู้แบบผู้ใหญ่ (Adult learning) โดยการนำกิจกรรมเข้ามาขับเคลื่อนกระบวนการ ภายใต้แนวคิด “เพลิน” (PLEARN = Play + Learn) ซึ่งจะส่งผลให้ผู้เรียนเกิดการแลกเปลี่ยนแนวคิด ประสบการณ์ และแนวทางปฏิบัติต่างๆที่สอดคล้องตามวัตถุประสงค์ของหลักสูตรด้วยความสนุกและผ่อนคลาย ผ่านกระบวนการการทำกิจกรรม แบ่งกลุ่มอภิปราย ระดมสมอง และวิเคราะห์กรณีศึกษา

3. Motivation Speaker Style ด้วยเทคนิคส่วนตัวและจุดเด่นของวิทยากรคือ การบรรยายในรูปแบบของ Motivation Speaker Styleซึ่งช่วยกระตุ้นและปลุกพลังให้ผู้เข้าอบรมตื่นตัวและอยากเรียนรู้ตลอดเวลา

หมายเหตุ :

  • การบรรยายและนำเสนอโดยวิทยากร 30 %
  • บรรยายและการสาธิต  ฝึกปฏิบัติโดยผู้เข้าอบรม  70%
  • ฝึกปฏิบัติ / แสดงบทบาทสมมุติ / วิเคราะห์กรณีศึกษา /กิจกรรม

 

ระยะเวลา (Time)  6  ชั่วโมง

 

กลุ่มเป้าหมาย  : บุคลากรทุกระดับในองค์กร

 

อาจารย์อัครินทร์  ภูทองกลม   วิทยากรผู้เชี่ยวชาญการอบรมหลักสูตรการสื่อสาร

Visitors: 287,311